ลักษณะ ไซบีเรียน ฮัสกี้

ไซบีเรียนฮัสกีมีรูปร่างลักษณะภายนอกคล้ายกับอลาสกันมาลามิวท์เช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขวงศ์สปิตซ์เช่นซามอยไซบีเรียนมีขนหนาแน่นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น มีสีและรูปแบบขนที่หลากหลาย โดยปกติมีสีขาวที่เท้า, ขา, ท้อง, รอบตาหรือเป็นหน้ากากที่หน้า และที่ปลายหาง ทั่วไปมีสีดำ-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว, และขาวปลอด และยังมีแบบที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีอ่อน แต้มจุด แว่นตา ฯลฯ บางครั้งก็มีลักษณะคล้ายหมาป่าเกิดขึ้น แม้ว่าในการพัฒนาพันธุ์ไม่มีความใกล้ชิดกับหมาป่าหรือสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดเลย คิดว่าเกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ไซบีเรียแล้ว

ไซบีเรียนฮัสกี “ตา 2 สี”, “จมูกหิมะ”(สีแดง)

ตา[แก้]

สีตาของไซบีเรียนฮัสกีที่เป็นที่ยอมรับมีสีฟ้าหรือน้ำตาลเข้ม, เขียว, น้ำตาลอ่อน, เหลือง/อำพัน, “แก้วตาหลายสี” หรือตาเฮเซล (Hazel) เป็นจุดบกพร่องร้ายแรงที่แสดงวงสีต่างกันในแก้วตา รวมถึงตาข้างนึงสีน้ำตาลอีกข้างสีฟ้า (complete heterochromia) หรือตาข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างมีสี “แบ่งส่วน” น้ำตาลครึ่งฟ้าครึ่ง (partial heterochromia) นี่คือสีตาทั้งหมดที่ถูกพิจารณายอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งสหรัฐอเมริกาตาต้องเป็นรูปอัลมอนด์ เว้นระยะห่างกันปานกลาง วางตัวเฉียงเล็กน้อย[6]

หูและหาง[แก้]

หูเป็นรูปสามเหลี่ยม, มีขนสมบูรณ์, ขนาดกลาง, และตั้งชัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆในการพัฒนาพันธุ์โดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข เช่นสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (สหรัฐอเมริกา) ที่มีรูปหูที่เรียกว่าหูผึ่ง (prick ears) หางเป็นพู่เหมือนหางหมาจิ้งจอกรูปเคียวโค้งเหนือหลังและลากหางไปด้านหลังเมื่อเคลื่อนไหว ไซบีเรียนฮัสกีส่วนมากมีสีขาวตรงปลายหาง[6] หางต้องไม่โค้งจนแตะหลังเหมือนสปิตซ์ สีออกแกมขาว

ขน[แก้]

ขนของไซบีเรียนฮัสกีมี 2 ชั้น ขนชั้นในที่หนาแน่นและขนชั้นนอกที่ยาวกว่า ขนชั้นนอกยาวตรงและบางส่วนเหยียดเรียบไม่ชี้ชันตั้งตรงจากลำตัว ที่สามารถปกป้องมันจากความรุนแรงของฤดูหนาวขั้วโลกเหนือได้ (−50 °C to −60 °C[7]) แต่ขนที่หนานั้นทำให้ระบายความร้อนได้ยากในฤดูร้อน ส่วนขนยาวแบบที่เรียกว่า “ฮัสกีขนแกะ (wooly huskies)” นั้นไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่มีสิทธิ์ลงแข่งในสนามประกวด ดูสีขนเพิ่มเติม

จมูก[แก้]

จมูกของไซบีเรียนฮัสกีมีสีดำในสีเทาในสุนัขสีแทนและสีดำ สีเลือดหมูในสุนัขสีทองแดง และอาจจะมีสีเนื้อในสุนัขสีขาว ไซบีเรียนฮัสกีบางตัวมีจมูกที่เรียกว่า “จมูกหิมะ” เป็นสภาวะที่เรียกว่าผิวด่าง (hypopigmentation) ในสัตว์ และสุนัขที่มี “จมูกหิมะ” นั้นสามารถลงประกวดได้[8][6] ในสุนัขระดับประกวดไม่ค่อยจะมีจมูกทรงแหลมหรือสี่เหลี่ยมนัก

ขนาด[แก้]

ในการเพาะพันธุ์ ไซบีเรียนฮัสกีมีมาตรฐานดังนี้ เพศผู้สูง 21 – 23.5 นิ้ว (53.5 – 60 ซ.ม.) หนัก 45 – 60 ปอนด์ (20.5 – 28 กิโลกรัม) เพศเมียมีขนาดเล็กกว่า สูง 20 – 22 นิ้ว (50.5 – 56 ซ.ม.) หนัก 35 – 50 ปอนด์ (15.5 – 23 กิโลกรัม)[6]

อารมณ์[แก้]

ไซบีเรียนฮัสกีที่มีตาสีฟ้าน้ำแข็ง

ไซบีเรียนฮัสกีก็เหมือนสุนัขใช้งานทั่วๆไปที่มีพลังงานสูงต้องการการออกกำลังมาก มันควรได้รับการปฏิบัติแบบเพื่อนเดินทางและสุนัขลากเลื่อนไม่ใช่สุนัขอารักขา การรวมกันของปัจจัยนี้ส่งผลให้ไซบีเรียนฮัสกีมีจิตประสาทที่สุภาพอ่อนโยนและซื่อสัตย์[9]

ชาวอินูอิต (Inuit) พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ลากเลื่อนหนักเป็นระยะทางไกลๆและสามารถเอาตัวรอดได้การภูมิประเทศที่หนาวเย็นแบบทรุนดรา (tundra) และช่วยในการล่าสัตว์[2]

ไซบีเรียนฮัสกี เพศเมีย อายุ 6 เดือน กำลังเล่นในหิมะ

พฤติกรรม[แก้]

พฤติกรรมของไซบีเรียนฮัสกีถูกมองว่าเป็นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนัขบ้าน นั่นก็คือหมาป่า มันแสดงออกในรูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้างๆ[10] บ่อยครั้งที่ชอบหอนมากกว่าเห่า[11] การแสดงออกที่มากเกินไปเกิดจากการถูกขับด้วยสัญชาตญาณในการล่า บุคลิกลักษณะของสุนัขที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บ่อยครั้งที่เห็นได้ชัดในพฤติกรรมการละเล่นไล่จับสิ่งต่างๆในสิ่งแวดล้อมที่สุนัขแสดงออกมาคล้ายกับสุนัขล่าเนื้อมากกว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง มันชอบวิ่งเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะจากประวัติการเพาะพันธุ์ในอเมริกาเหนือ ในการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งควรใช้เวลา 15 นาที/วันดีที่สุด และทำทุกๆวัน แต่บางครั้ง ไซบีเรียฮัสกี้จะเป็นสุนัขที่คนชอบเห็นว่าเป็นสุนัขที่ขี้เล่นหรือชอบวิ่งเล่นมากกว่าสุนัขพันธ์อื่นๆ[12]

สุขภาพ[แก้]

ไซบีเรียนฮัสกีมีอายุเฉลี่ยราวๆ 12 – 16 ปี ข้อบกพร่องในตาแต่กำเนิดที่พบจากการเพาะพันธุ์ เช่น ต้อกระจกบาง, กระจกตาเจริญผิดเพี้ยน, และจอตาฝ่อรุกลาม การเจริญผิดปรกติของเอวก็พบได้บ่อยเช่นกันในการเพาะเลี้ยงเหมือนกับสุนัขขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ทั่วไป[13]

ไซบีเรียนฮัสกีที่เป็นสุนัขลากเลื่อนอาจมีโรคอื่นๆอีก เช่น โรคกระเพาะ[14], หลอดลมอักเสบ[15], และแผลในกระเพาะ[16]

Advertisement

5 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้

เมื่อวันก่อนได้ดูรายการที่นี่หมอชิต เทปที่พาไปเที่ยวบ้านคู่จิ้นสุดฮอต “โตโน่-ริท” ที่จังหวัดขอนแก่น แล้วพ่อโตโน่คนโก้ก็พาน้องหมาไซบีเรียนหน้าตาหล่อเหลาเอาการ(ไม่แพ้เจ้าของ) มาออกสื่อด้วย ชลลี่ เห็นแล้วอยากฟัดซักสองสามที คนอะไร เอ้ย! หมาอะไรน่ารักจริงๆ …

ไซบีเรียน

สำหรับน้องหมา “ไซบีเรียน ฮัสกี้” ถือว่าเป็นน้องหมาสายพันธุ์ฮอตอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหล่าคนรักสุนัขให้ความสนใจและนิยมเลี้ยงกันเป็นจำนวนมาก สำหรับสาเหตุที่ไซบีเรียนกลายมาเป็นน้องหมายอดนิยมอันดับต้นๆ นั้น อาจมาจากลักษณะหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของไซบีเรียน พวกเขาจะมีหน้าตาคมสวย ดูเท่ มาร์คกิ้งที่หน้าของไซบีเรียนแต่ละตัวจะแตกต่างกันไป ดวงตาของไซบีเรียนจะมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหล ไซบีเรียนบางตัวจะมีสีตา 2 ข้างที่ไม่เหมือนกัน และหากคุณเป็นคนที่ชอบกอดน้องหมาขนนุ่มๆ ไซบีเรียนจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจคุณได้อยากไม่ยาก เพราะพวกเขาจะมีขนที่นุ่มเหมือนตุ๊กตาตัวฟูๆ ดูแล้วน่ากอดน่าฟัดมากๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ

และนอกจากลักษณะหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของน้องหมาไซบีเรียนแล้ว พวกเขาก็ยังมีนิสัยที่ไม่เหมือนใคร ชนิดที่ว่าดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วคุณอาจจะคาดไม่ถึงว่าเขามีนิสัยแบบนี้ ซึ่งนิสัยแปลกๆ ของไซบีเรียนนั้นก็จะมีทั้งแปลกแบบน่าเอ็นดู และแปลกแบบชวนให้คนเลี้ยงปวดเศียรเวียนเฮดกันเป็นแถวๆ

และเพื่อให้เข้าใจน้องหมาหน้าเท่อย่างไซบีเรียนให้มากขึ้น วันนี้ ชลลี่ ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับนิสัยแปลกของไซบีเรียน ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงมาฝากกันค่ะ

1. ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นหมาอินดี้!!

เสน่ห์อย่างหนึ่งของไซบีเรียนคือ เขาจะเป็นน้องหมาที่มีนิสัยเป็นตัวของตัวเอง สง่างาม เฉิดฉาย โดดเด่น ไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์โลก ไม่แคร์ใครแม้กระทั่งเจ้าของ!!! (อ้าว หมาอกตัญญู) ไซบีเรียนจะยอมทำสิ่งต่างๆ ก็เมื่อเขาพอใจที่จะทำ เขาจะทำตามที่เจ้าของสั่งก็ต่อเมื่อเขาพอใจ ถ้าหากเขากำลังอยู่ในอารมณ์อินดี้ ปล่อยอารมณ์ชิลๆ อยู่กับโลกส่วนตัวของเขาล่ะก็ ต่อให้เจ้าของเรียกให้ตาย เขาก็ไม่สนใจหรอกค่ะ … ก็อินดี้ซะอย่าง ใครจะทำไม?

2. ไซบีเรียนเป็นหมาอึด อดอาหารได้หลายวัน

อ๊ะๆ เห็นชลลี่บอกแบบนี้แล้วไม่ใช่ว่าจะให้น้องไซเขาอดอาหารนะคะ แต่สาเหตุชลลี่บอกว่าไซบีเรียนสามารถอดอาหารได้หลายวันนั้นเป็นเพราะว่าธรรมชาติสายพันธุ์ของเขาแต่ดังเดิมเป็นน้องหมาที่มีถิ่นฐานมาจากเขตหนาว และถูกเลี้ยงเอาไว้ใช้งานในการลากเลื่อน ดังนั้นในบางครั้งไซบีเรียนอาจจะต้องเผชิญกับสภาวะฉุกเฉินระหว่างการเดินทางในเขตหนาวที่มีหิมะตกหนักทำให้ไม่สามารถหาอาหารได้ จึงทำให้พวกเขาต้องปรับตัวให้มีความอดทนเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ คุณสมบัติดังกล่าวนี้สืบทอดมาจนถึงเหล่าน้องหมาไซบีเรียนที่เราเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบัน … คุณเชื่อรึเปล่าคะว่า บางครั้งพวกเขาก็มักจะยอมอดอาหารเป็นวันๆ ถ้าหากเราให้เขากินอาหารที่เขาไม่ถูกใจ เมื่อใดที่เราเอาของโปรดมาให้เขากิน เมื่อนั้นล่ะค่ะ เขาถึงจะยอม

3. ไซบีเรียนเป็นมิตรกับคนในบ้าน แต่เป็นศัตรูตัวร้ายของคนรักบ้าน

สำหรับครอบครัวที่รักสุนัข ชลลี่ขอบอกว่าสบายใจได้เลยคะถ้าหากคิดจะเลี้ยงไซบีเรียน เพราะพวกเขาจะเป็นมิตรกับทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะลูกเล็กเด็กแดง ลูกเมียหลง ลูกเมียน้อย ลองได้ชื่อว่าเป็นคนในครอบครัวแล้ว เจ้าไซบีเรียนก็ยินดีที่จะผูกสมัครรักใคร่ด้วยค่ะ … แต่ในขณะที่ไซบีเรียนเป็นมิตรกับคน แต่เขากลับเป็นนักทำลายบ้านตัวฉกาจ!! ไซบีเรียนจะเห็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์สุดรักของคุณเป็นของเล่นชิ้นโปรดที่นึกจะกัด แทะ ดึง ทึ้ง ให้เละเทะเท่าไหร่ก็ได้

4. ไซบีเรียนเป็นหมาไม่มีกลิ่นตัว

เหมาะมากๆ สำหรับคนรักความสะอาดและไม่ชอบกลิ่นเป็นสาปของน้องหมา เพราะโดยธรรมชาติแล้วไซบีเรียนจะไม่ค่อยมีกลิ่นตัว (ถ้าหากเขาไม่ไปนอนทับถังขยะเปียกมานะคะ) ถ้าหากคุณเช็ดตัวให้ไซบีเรียนทุกวัน ในระยะเวลา 1 เดือน คุณอาจจะอาบน้ำให้ไซบีเรียนเพียงแค่ครั้งเดียวก็ได้ค่ะ … แต่ถ้าหากอาบแล้วล่ะก็ คุณจะต้องเช็ดตัวและเป่าขนของเขาให้แห้งในทันทีนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาโรคผิดหนังได้ค่ะ

5. ไซบีเรียนเป็นหมาที่ขนร่วง

บางคนไม่เคยเลี้ยงไซบีเรียนมาก่อน อาจจะตกใจเมื่อเห็นขนของไซบีเรียนหลุดติดมือมาเมื่อลูบตามตัวเขา บางคนจิตตกคิดว่าน้องหมากำลังป่วย แต่จริงๆ แล้วโดยธรรมชาติไซบีเรียนเป็นน้องหมาที่มีขนสองชั้น ดังนั้นจึงมีการผลัดขนอยู่เรื่อยๆ เป็นระยะ ซึ่งปริมาณขนที่ผลัดนั้นก็จะมากพอสมควร ดังนั้นไม่ต้องตกใจไปค่ะ … ทางทีดีเวลาไซบีเรียนผลัดขน ถ้าหากเลี้ยงเขาในบ้าน คุณควรหาผ้ามาคลุมโซฟาหรือที่นอนเอาไว้ป้องกันขนของเขาไปติดก็จะช่วยให้ทำความสะอาดบ้านได้ง่ายขึ้นนะคะ และถ้าหากไม่อยากให้ขนของไซบีเรียนปลิวฟุ้งไปทั่วบ้าน คุณก็จะต้องขยันแปรงขนให้ไซบีเรียนเพื่อให้ขนที่ผลัดหลุดล่วงและทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

 

เรื่องโดย : ชลลี่